ASPS มองตลาดต้องเผชิญความเสี่ยง 4 เหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันกลางเดือน ส.ค. คือ ตัวเลขเศรษฐกิจ GDP Q2/63-ผลทบทวนข้อตกลงการค้าสหรัฐ และงบ Q2/63 รวมถึงปรับประมาณการกำไรบจ.ลง เชื่อว่าน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี จากนั้นจะค่อยๆดีขึ้น ชู INTUCH-MCS ปันผลสูง
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ครึ่งแรกของเดือน ส.ค.63 SET Index น่าจะอยู่ภายใต้แรงกดดันของตัวเลขที่สำคัญ 2 รายการคือ GDP และ ผลประกอบการ Q2/63 ซึ่งจะถูกประกาศออกมา โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี หลังจากนั้นน่าจะค่อยๆ ดีขึ้น
ฝ่ายวิจัย ระบุว่า ยังคงเห็น Downside ของประมาณการ GDP Growth ไทย ช่วงครึ่งแรกของเดือน ส.ค.ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยจะเผชิญแรงกดดันและมีข้อจำกัดในการปรับขึ้น จาก 4 ปัจจัย คือ
1.กระแสการปรับลด GDP ปี 2563 ยังมีอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานรัฐเริ่มจาก ธปท. ปรับลดลงเหลือ -8.1%yoy ตามมาด้วย สัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังคาดเหลือ -8.5% และต้นสัปดาห์ ม.หอการค้าไทยปรับลดคาด – 9.4% และล่าสุด กกร. (สภาหอการค้า, สภาอุตสาหกรรม และสมาคมธนาคารไทย) ปรับลดคาดการณ์อยู่ในช่วง -7% ถึง -9% จากเดิม -5% ถึง -8% VS.ASPS คาดหดตัว 8.4%yoy
ในส่วนของ ASPS ประเมินว่ามีโอกาสจะเห็น Downside ของประมาณการ GDP ปี 63 จากความไม่แน่นอนของเหตุการณ์บางส่วนในอนาคต เช่น การกลับมา Reopen ธุรกิจ ของไทย ในภาวะที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะคู่ค้าหลักของไทย มีหลายประเทศกลับมา Lockdown เศรษฐกิจรอบที่ในช่วง Q3/63 หลังผู้ติดเชื้่อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ (ไทยพึ่งภาคต่างประเทศสัดส่วนสูงมาก คือ ส่งออกราว 68% ของ GDP ,ท่องเที่ยวราว 20% GDP) และผลกระทบสำคัญ คือ การบริโภคครัวเรือน (ราว 50% GDP) ในช่วง 2H63 คาดได้รับผลกระทบหลักจากกำลังซื้อที่หายไป จากแนวโน้มผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น
ล่าสุด กกร. คาดปี 63 จะมีผู้ว่างงานรวมราว 8 ล้านคน เทียบกับกำลังแรงงานทั้งระบบไทยอยู่ที่ราว 33 ล้านคน หรือ Unemploymentrate ของไทยจะพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ราว 24.2%
2.การรายงาน GDP Q2/63 ของไทย คือ สภาพัฒน์จะประกาศวันที่ 17 ส.ค.คาดหดตัว 15%yoy หรือ หดตัว 18.9%qoq อยู่ที่ 2.26 ล้านล้านบาท โดยประเมินงวด Q2/63 เป็น Bottom ของปีนี้ อย่างไรก็ตามหาก GDP ออกมาหดตัวมากกว่าที่คาด หรือ ใกล้เคียงคาด เชื่อว่า SET Index จะถูกกดดัน
3.กระแสความตึงเครียดสหรัฐ – จีน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่กลางปี-ปัจจุบัน ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐ ต้องการให้ Application ที่เป็นของประเทศจีน Remove ออกจาก Apple Store และ Goggle Store ทั้งหมด ASPS ประเมินว่ามีโอกาสที่ร้อนแรงขึ้นเรื่่อยๆ เพราะการเลือกตั้งสหรัฐ วันที่ 3 พ.ย.ประธานาธิบดีทรัมป์จะเร่งสร้างคะแนนเสียง
สรุปคือ ตลาดจะต้องเผชิญความเสี่ยงจาก 4 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันในช่วงกลางเดือน ส.ค. คือ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ GDP 2Q63, การรอผลทบทวนข้อตกลงการค้าสหรัฐเฟสแรก และการรายงานงบงวด Q2/63 รวมถึงปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนลง
แต่หลังจากนั้นน่าจะเป็นเหมือน “ฟ้าหลังฝน” คือ เป็นโอกาสทยอยเข้าสะสมในตลาดหุ้นไทย จากทิศทางเศรษฐกิจที่น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว รวมถึงแรงผลักดันจากสภาพคล่องส่วนเกินที่ล้นระบบช่วยหนุนอีกแรง
ในช่วงนี้ นักกลยุทธ์เน้นเลือกลงทุนในหุ้นผันผวนต่ำปันผลสูง พร้อมกับกำไรอยู่ในระดับที่ดีกว่าตลาดฯ อย่าง MCS, INTUCH โดยคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลทั้ง 2 บริษัท
August 06, 2020 at 11:03AM
https://ift.tt/2XyguE4
ASPS มอง SET ส.ค.ถูกกดดันจากตัวเลข GDP-งบ Q2/63 ชู INTUCH-MCS ปันผลดี - efinanceThai
https://ift.tt/2ALcrvP
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ASPS มอง SET ส.ค.ถูกกดดันจากตัวเลข GDP-งบ Q2/63 ชู INTUCH-MCS ปันผลดี - efinanceThai"
Post a Comment